วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555


4. การเรียนรู้แบบออนไลน์ e-Learning

  เป็นการศึกษา เรียนรู้่ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต (Internet) หรือ อินทราเน็ต (Intranet) เป็นการเรียนรู้ต้วยตนเอง ตามความสามรถและความสนใจของตนเอง โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วีดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) โดยผู้เรียนผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้ เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัยสำหรับทุกคน โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลา และทุกสถนที่ (Learning for all : anyone anywhere  and anytime)

5. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction - CAI)
 
   คอมพิวเตอร์ซึ่งนำเสนอสารสนเทศที่ได้ผ่านกระบวนการสร้างและพิจารณามาเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาวิชาหรือสารสนเทศ แบบฝึกหัด การทดสอบและการให้ข้อมูลป้อนกลับให้ผู้เรียนได้ตอบสนองต่อบทเรียนตามระดับความสามารถขงตนเอง เนื้อหาวชาที่นำเสนอจะอยู่ในรูปมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย อักษร รูปภาพ และ/หรือ ทั้งภาพและเสียง ซึ้งมีพื้นฐานมาจากการนำหลักการเบื้องต้นทางจิตวิทยาการเรียนรู้มาออกแบบ โดยอาศัยพฤติกรรมการเรียนรู้ (Learning Behavior) ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory) ทฤษฎีการวางเงื่อนไขปฎิบัติ (Operant Conditioning Theory) ซึ่งถือว่าความสัมพันธ์ของสิ่งเร้ากับการตอบสนองและการเสริมแรงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีจุดมุ่งหมายนำผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งอาศัยการสอนที่มีการวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เป็นการให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและมีผลย้อนกลับทันทีและเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนอย่างเหมาะสมตามความต้องการและความสามารถของตน

6. วีดีทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand - VOD)

    คือ ระบบเรียกดูภาพยนต์ตามสั่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใ้ช้งานสามารถเลือกดูภาพยนต์หรือข้อมูลภาพเคลื่อนใหวพร้อมสียงได้ตามต้องการ ตามสโลแกนที่ว่า "To view what one whats, when one whats" โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Network) ผู้ใช้งานซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย (Video Client) สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนใหวได้ทุกเมื่อตามความต้องการ และสามารถควบคุมข้อมูลวีดีโอนั้นๆโดยสามารถย้อนกลับ (Rewind) หรือกรอกไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราว (Pause) ได้เปรียบเสมือนการดูวีดีโอที่บ้านนั้นเองทั้งนี่เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกัน กล่าวคือ สามารถดูภาพยนต์เรื่องเดียวกัน หรือต่างกันได้

7. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-books )

    คือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านได้ทางอินเตอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นในการอ่านหนังสือประเภทนี้คือ ฮาร์ดแวร์ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆพร้อมทั้งติดตั้งระบบปฎิบัติการซอฟต์แวร์ที่ใช้อ่านข้อความต่างๆ ตัวอย่างเช่น ออร์แกไนเซอร์แบบพกพา พีดีเอ เป็นต้น ส่วนการดึงข้อมูล e-books ซึ่งจะอยู่บนเว็บไซต์ให้บริการทางด้านนี้ก็จะใช้วิธีการดาวน์โหลดผ่านทางอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ลักษณะไฟล์ของ e-books หากนักเขียนหรือสำนักพิมพ์ต้องการสร้าง e-books จะสามารถเลือกสร้างได้สี่รูปแบบคือ Hyper Text Markup Language (HTML), Portable Document Format (PDF), Peanut Markup Language (PML), และ Extensive Markup Language (XML)

8. ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-library)

   เป็นแหล่งความรู้ที่บันทึกข้อมูลใว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและให้บริการข้อมูลทางสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

9. คุณลักษณะที่สำคัญของห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์มีดังนี้คือ

 1. จัดการทรัพยากรสารสนเทศด้วยระบบคอมพิวเตอร์
 2. ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศโดยทางอิเล็กทรอนิกส์
 3. บรรณารักษ์หรือบุคลากรของห้องสมุดสามารถแทรกการติดต่อระหว่าผู้ใช้กับห้องสมุดได้ เพื่อช่วย       เหลือผู้ใช้ได้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์
 4. ความสามารถในการจัดเก็บ รวบรวมและนำส่งสารสนเทศสู่ผู้ใช้โดยอิเล็กทรอนิกส์

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

                    - ควาวก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

                                 - รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
                                 - พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
                                 - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียรการสอน


                 รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน

เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้ 6 รูปแบบ ดังต่อไปนี้ คือ

1. เทคโนโ,ยีที่ใช่ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียม ถ่ายภาพทางอากาศ, กล้องดิจิทัล,  กล้องถ่ายวีดีทัศน์ เครื่องเอกซเรย์

2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
   เป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆเช่น เทปแม่เหล็ก,จานแม่เหล็ก,จานแสงหรือจานเลเซอร์,บัตรเอทีเอ็ม

3. เทคโลโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์

4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์, จอภาพ, พลอตเตอร์ ฯลฯ

5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องถ่ายไมโครฟิล์ม

6. เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูลได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่างๆ เช่น โทรทัศน์วิทยุกระจายเสียง, โทรเลข, เทเล็กซ์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะไกล้และระยะไกล

                               ความก้าวหน้าของเทคโนโลยัีสารสนเทศ

       ต้วอย่างการใช่เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในทางธุรกิจ และทางการศึกษา ดังตัวอย่างเช่น
-ระบบเอทีเอ็ม
- การบริการและการทำธุรกรรมบนอินเตอร์เน็ต
- การลงทะเบียนเรียน

                             พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

              พฤติกรรมการใช้เทคโฯโลยีสารสนเทศคืออะไร

        การแสดงออกทางความคิดและความรู้สึกในการใช้รูปแบบของเทคโนโลยีทุกประเภท ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้างและเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่างๆได่แก่ ภาพข้อความหรือตัวอักษร ตัวเลขและภาพเคลื่อนใหว เป็นต้น

                         การใช้อิเตอร์เน็ต
          งานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา
พบว่า
         นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เนื่องจากเห็นว่ามีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ในขณะที่การใช้อินเตอร์เน็ตของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาส่วนใหญ่ใช้เพื่อการเรียนรู้ การติดตามข่าวสาร ของสถานศึกษา

                             ใช้อินเตอร์เน็ต ทำอะไรได้บ้าง ?

            งานวิจัยชี้ว่า นักศึกษาใช้อิเตอร์เน็ตในการสนทนากับเพื่อนๆและการค้นข้อมูลจากห้องสมุด

                              พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

            นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้
และประกอบการทำรายงาน

                             สถานที่ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

         งานวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน และมีการใช้อิเตอร์เน็ตที่ห้องสมุดของสถาบัน
       นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการใช้หรือมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศน้อย ในรูปแบบใหนบ้าง
งานวิจัยชี้ว่า นักศึกษามีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเหล่านี้น้อย ได้แก่ ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนรู้แบบออนไลน์หรือ e-Learning วีดีทัศน์ตามอัธยาศัย (video on Demand) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

         การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
-การเรียนรู้แบบออนไลน์
-บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction - CAI)
-วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand)
-หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-books)
-ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์(e-libra)

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู

Information and Communication Technology for Teachers
รหัส PC 54504 3(2-2-5)

คำอธิบายรายวิชา

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ไมโครคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูล ระบบเน็ตเวิร์ก ระบบซอฟต์แวร์ การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ ทักษะการเข้าถึงสารสนเทศ ฐานข้อมูลสารสนเทศ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์และการอ้างอิง ฝึกปฏิบัติ สามารถใช้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม

สารสนเทศ ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Information หมายถึง ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าสารสนเทศ เป็นทั้งความรู้และข่าวสารที่สำคัญที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งในด้านการได้มาและประโยชน์ในการนำไปใช้ปฏิบัติ

สารสนเทศ มีความหมายตามที่ได้มีการให้คำจำกัดความที่ใกล้เคียงกัน ดังนี้

สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลทั้งด้านปริมาณและด้านคุณภาพที่ประมวลจัดหมวดหมู่เปรียบเทียบ และ วิเคาะห์แล้วสามารถนำมาใช้ได้ หรือนำมาประกอบการพิจารณาได้สะดวกกว่าและง่ายกว่า


เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร

เทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอที (IT) เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อสังคมในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ การประมวลผล และการแสดงผลสารสนเทศ

องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วยหลัก 2 ส่วน คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม

1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ จัดเป็นเทคโนโลยีหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบัน เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติครบถ้วนทางด้านการบันทึก การจัดเก็บ การประมวลผล การแสดง และการสืบค้นหาข้อมูลสารสนเทศเทคโนโลยีย่อยที่สำคัญได้2ส่วน คือ เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และเทคโนโยยีซอฟต์แวร์

1. เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ทุกชนิดที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงเพื่อเชื่อมโยงจำแนกตามหน้าที่การทำงานออกเป็น 4 ส่วน คือ
1. หน่วยรับข้อมูล
2. หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู
3. หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
4. หน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage Unit)

2. เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ (Software)
หมายถึงโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์แบบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
หรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานตามคำสั่ง
2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
คือชุดคำสั่งที่ผู้ใช้ส่งเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใหัเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ
2. เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม
หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันทั่วไป เช่น ระบบโทรทัศน์ ระบบดาวเทียม ระบบเครือข่ายเคเบิล และระบบสื่อสารอื่นๆ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
         
-แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 4 (2520-2524) การมีส่วนร่วมของสารสนเทศเพื่อการศึกษา
-มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและปฏิบัติการของระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษาขึ้น
-ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแฟ่งชาติฉบับที่ 8 ก็ได้มีการเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษามากขึ้น
-ในแผนฯ 9 มีการจัดทำ แผนหลัก เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการศึกษา

** แผนพัฒนา ฯ ข้างต้นทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อวงการศึกษาของประเทศไทยมากขึ้น จะทำให้การศึกษาของชาติมีความเท่าเทียมทั่วถึง มีคุณภาพ และมีความต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างคุ้มค่า

พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา

ยุคที่ 1 การประมวลผลข้อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลของรายการประจำ ( Transaction Processing ) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร

ยุคที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจ ควบคุมดำเนินงาน ติดตามผลและวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่างๆ

ยุคที่ 3 การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ มีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่จะช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จ

ยุคที่ 4 ยุคปัจจุบัน หรือยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ และเน้นความคิดของการใช้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
1. ให้ความรู้ ทำให้เกิดความคิดและความเข้าใจ
2. ใช้ในการวางแผนการบริหารงาน
3. ใช้ประกอบการตัดสินใจ
4. ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
5. เพื่อให้การบริหารงานมีระบบ

** สรุป

การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในวงการศึกษามีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศประเภทต่างๆ เช่น ดาวเทียมสื่อสาร ใยแก้วนำแสง อินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการบริหารงานในสถานศึกษาด้านต่างๆ เช่น ระบบบริหารจัดการห้องสมุด และระบบคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนนการเรียนการสอน เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษายังช่วยให้เกิดการลดความเลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษาการเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Assignment1

1. จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ตามความเข้าใจของนักศึกษา
  - เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง
  - เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หมายถึง
  - เทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication Technology) หมายถึง

2. จงอธิบายความคาดหวังในการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครูว่านักศึกษาคาดหวังจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง และนักศึกษาคาดว่าจะได้ทำสิ่งใดบ้าง
    ดิฉันคาดหวังที่จะได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้ซอฟแวร์ประยุกต์ต่างๆการนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน